Like!  0 

 

 


 

      

 

 

 

LED คืออะไร

   LED ย่อมาจาก Light-Emitting-Diode หรือภาษาไทยเรียกว่าไดโอดเปล่งแสงเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่งที่ยอม ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่าน และจะปล่อยแสงสว่างออกมาโดยมีคุณสมบัติเปลี่ยนพลังงาน ไฟฟ้าเป็นพลังงานแสงโดยตรงแสงสว่างเกิดขึ้นจากการเคลื่อนของอิเล็กตรอนภาย ใน กึ่งตัวนำสีของแสงที่แปล่งออกมานั้นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีของ วัสดุกึ่งตัวนำที่ใช้โดยใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยมากเทียบกับหลอดไฟชนิดอื่น และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 100,000 ชั่วโมง หลอด LED จึงได้รับความนิยมในการนำมาใช้ผลิตป้ายอักษรไฟวิ่ง ป้ายสัญญาณไฟ รวมถึงโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ

 

การเลือกจอ LED ให้สัมพันธ์กับงานที่ต้องการนำเสนอ

   สำหรับงานโฆษณา-แสดงสินค้าหรือนิทรรศการต่างๆ ที่ต้องการใช้จอ LED เพื่อช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าในรูปแบบต่างๆ นั้น จะต้องเลือกสเปกของการใช้งานให้ถูกต้อง การเลือกจอ LED จะต้องรู้ความต้องการก่อนว่า จะใช้แสดงผลในลักษณะอย่างไร

   1. ใช้งานแบบภายในหรือภายนอกอาคาร เนื่องจากรูปแบบของการแสดงผลของทั้งสองแบบนั้น จะมีสิ่งที่แตกต่างกันทั้งความเข้มของแสงและความทนทานต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งจอแบบใช้ภายนอกอาคารนั้น จะมีความสว่างมากกว่าแบบภายในอาคารถึง 5 เท่า

จอ Indoor ต่างจาก Outdoor อย่างไร

 

 INDOOR

  1. ให้ความสว่างไม่มากเมื่อเทียบกับจอ Outdoor

  2. มีความละเอียดสูงเหมาะสำหรับการมองระยะใกล้

  3. เหมาะสำหรับการติดตั้งภายในอาคาร

  4. ใช้หลอดชนิด SMD, SMD semi, LED

  5. มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม ทนแดด ทนฝนได้น้อยกว่าจอ Outdoor

 

 

OUTDOOR

 1. ให้ความสว่างมากกว่า Indoor ประมาณ 5 เท่า

 2. มีความละเอียดน้อยกว่าจอ Indoor สำหรับมองระยะไกล

 3. เหมาะสำหรับการติดตั้งภายนอกอาคาร

 4. ใช้หลอด LED

 5. มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อม ทนแดด ทนฝนและสามารถกันน้ำได้

 

    2. ขนาดของจอ LED ที่ต้องการใช้ ต้องจินตนาการถึงตำแหน่งที่เราจะใช้งานจอ LED แล้วเลือกขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ และจะเน้นระยะการมองในตำแหน่งใกล้หรือไกลประมาณเท่าไร

 

   3. สำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้จอ LED จะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับจอ LED เช่น จะมีความละเอียดเท่าไร (ระยะ PH หรือ P คือระยะห่างระหว่าง Pixel (Pixel Picth) เช่น PH10 หมายความว่าหลอด LED จะถูกวางห่างกันทุกๆ 10 มิลลิเมตร) ยิ่งความละเอียดที่มีตัวเลขน้อย ก็จะยิ่งมีความชัดเจนมาก เช่น PH10 จะมองได้ชัดเจนกว่า PH16 ที่ระยะ 10 เมตร แต่ถ้ามองระยะไกล ทั้ง 2 แบบจะไม่ต่างกันมากนัก เป็นต้น และในส่วนเทคโนโลยีการผลิตจอ LED จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ ด้วยกันคือ Real Pixel และ Vitual pixel สำหรับระบบ Real pixel นั้นจะใช้เทคนิคของแม่สีแบบดั้งเดิม โดยการใช้หลอด LED 3 หลอด (1R1G1B) โดยระบบ Real pixel จะมีการผสมสีในแต่ละ pixel เท่านั้น ซึ่งจะต่างจากหลักการของ Vitual pixel จะอาศัยการวางหลอด LED ให้มีระยะห่างของหลอดที่เท่ากัน เพื่อให้เกิดจุดภาพ Vitual ขึ้นระหว่างจุดภาพจริง สีของจุดภาพ Vitual จึงเป็นการผสมสีของหลอด LED ที่อยู่ใน pixel เดียวกันและระหว่าง pixel อื่นด้วย จึงทำให้ภาพที่แสดงออกมา ดูมีมิติสมจริงมากกว่าระบบ Real pixel หากมองในระยะใกล้ แต่ภาพอาจจะเบลอหรือผิดเพี้ยนเมื่อมองจากระยะไกล ดังนั้นผู้ใช้ควรจะคำนึงถึงระยะที่ต้องการที่จะให้คนที่มองเห็นจอได้ชัดเจน ที่สุดมาเป็นอันดับแรก

 

 
Virtual Pixel Technology Real Pixel Technol

   ระบบ Virtual Pixel คือ ใช้แม่สีดั้งเดิมในการกำเนิดภาพโดยใช้หลอด

LED 3 หลอด (1R1G1B)  และแบบ LED 4 หลอด (2R1G1B)  ระบบ

Virtual Pixel อาศัยการวางหลอด LED ให้มีระยะห่างเท่ากันเพื่อให้เกิด

จุดภาพ Virtual ขึ้นระหว่างจุดภาพจริงสีของจุดภาพ Virtual โดยการ

ผสมสีของหลอด  LED  ที่อยู่ใน Pixel  เดียวกันซึ่งเป็นข้อแตกต่าง

ระหว่าง Real Pixel และทำให้ภาพจากระบบ Virtual Pixel มีความคม

ชัดและความละเอียดมากกว่า Real Pixel   

 

 

   ระบบ Real Pixel คือ ใช้แม่สีดั้งเดิมในการกำเนิดภาพ โดยใช้หลอด

LED 3 หลอด (1R1G1B)  และแบบ  LED  4 หลอด (2R1G1B)  เป็น 1 Pixel 

โดยใช้  Real Pixel  จะวางหลอด  LED และมีการผสมสีในแต่ละ  Pixel เท่านั้น

 

 

 

 

   

 การเลือกจอ LED ให้สัมพันธ์กับงาน และเหมาะสมธุรกิจที่ต้องการนำเสนอ

  INDOOR   OUTDOOR

  จอ LED แบบ Indoor ชนิดหลอด SMD ระบบ Real pixel

 

  จอ LED แบบ Outdoor ระบบ Real pixel

PH5      ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  5 - 38  เมตร

PH6.25  ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   6 - 45  เมตร
PH7.62  ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   7 - 60  เมตร
PH8     ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   8 - 65   เมตร
PH10    ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  10 - 75  เมตร
PH12    ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  12 - 90  เมตร

 

PH10   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   7 - 300  เมตร
PH12   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  10 - 300  เมตร
PH16   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  13 - 300  เมตร
PH20   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  16 - 300  เมตร
PH25   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  20 - 300  เมตร

 

  จอ LED แบบ Indoor ชนิดหลอด 3in1 ระบบ Real pixel

 

  จอ LED แบบ Outdoor ระบบ Vitual pixel

PH5      ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   5 - 38  เมตร
PH6.25  ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   6 - 45  เมตร
PH7.62  ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   7 - 60  เมตร
PH8      ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   8 - 65  เมตร
PH10    ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  10 - 75  เมตร
PH12    ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  12 - 90  เมตร

 

 PH10   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง   7 - 300  เมตร
PH12   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  10 - 300  เมตร
PH16   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  13 - 300  เมตร
PH20   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  16 - 160  เมตร
PH25   ระยะการมองที่ดีอยู่ในช่วง  20 - 200  เมตร

 

 

 OUTDOOR (จอใช้สำหรับงานภายนอกอาคาร-กลางแจ้ง)

   เป็นจอที่เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้ง และเน้นมองระยะไกล ซึ่งจอถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝนตก  หรือแสดงผลในสภาวะแสงแดดที่จ้า รับรองว่าจอ Outdoor ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้แน่นอน

 

 

 

 

 INDOOR (จอใช้สำหรับงานภายในอาคาร-ในร่ม)

   เป็นจอที่เหมาะกับการใช้งานภายในอาคารหรือภายในร่ม และเน้นมองระยะใกล้ ซึ่งจอถูกออกแบบมาให้ใช้งานภายในอาคาร เพราะฉะนั้นจอจะไม่ได้ทนต่อสภาพอากาศมากนัก ไม่ว่าจะเป็นฝนตก  หรือแสดงผลในสภาวะแสงแดดที่จ้า ซึ่งจะต่างกับจอชนิด Outdoor ซึ่งหากเลือกใช้ก็ต้องดูความต้องการของผู้ใช้ และเลือกจอให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมด้วย

 

 

 

 

CURTAIN (จอแบบผ้าม่าน)

   เป็นจอที่เหมาะกับการใช้งานภายในอาคารหรือภายในร่ม และเน้นมองระยะใกล้ ซึ่งจอถูกออกแบบมาให้ใช้งานภายในอาคาร เพราะฉะนั้นจอจะไม่ได้ทนต่อสภาพอากาศมากนัก ไม่ว่าจะเป็นฝนตก  หรือแสดงผลในสภาวะแสงแดดที่จ้า ซึ่งจะต่างกับจอชนิด Outdoor ซึ่งหากเลือกใช้ก็ต้องดูความต้องการของผู้ใช้ และเลือกจอให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมด้วย

 

 


 CIRCLE (จอแบบโค้ง-วงกลม)

   เป็นจอที่เหมาะกับการใช้งานภายในอาคารหรือภายในร่ม และเน้นมองระยะใกล้ ซึ่งจอถูกออกแบบมาให้ใช้งานภายในอาคาร เพราะฉะนั้นจอจะไม่ได้ทนต่อสภาพอากาศมากนัก ไม่ว่าจะเป็นฝนตก  หรือแสดงผลในสภาวะแสงแดดที่จ้า ซึ่งจะต่างกับจอชนิด Outdoor ซึ่งหากเลือกใช้ก็ต้องดูความต้องการของผู้ใช้ และเลือกจอให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมด้วย

 

 

 

        

 

 

 

 

 

 

   

    หลักจากมีกลุ่มนักโฆษณานำจอ LED Full Color Display มาใช้ในงานนิทรรศการ ก็ดูเหมือนว่าความนิยมในสื่อสมัยใหม่ได้เริ่มแพร่หลายมากขึ้น และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมองถึง“จุดคุ้มทุน” ที่เห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับสื่ออื่นๆ ข้อดีของจอ LED คือเป็นสื่อที่สามารถสื่อถึงความสมัยใหม่และแสดงความคิดสร้างสรรค์ในการนำ เสนอโฆษณาได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบที่สื่อสารการแสดงภาพเคลื่อนไหวเหมือนจอโทรทัศน์ ภาพกราฟฟิค ที่โดดเด่นมีสีสันสะดุดตา ด้วยการแสดงผลความละเอียดของสีถึง 281.4 ล้านล้านสี และยังรองรับการแสดงข้อมูลประเภทสื่อดิจิตอลอื่น เช่น Flash, Animation, PowerPoint, รูปภาพ, วิดีโอ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้สามารถสร้างความตื่นเต้น น่าสนใจให้กับโฆษณานั้นๆ ได้ และยังเป็นสื่อที่สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งตัวสินค้าที่โฆษณาและจุดอาคารที่ติดตั้งงานโฆษณาสามารถกำหนดพื้นที่ สำหรับติดตั้งงานให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลักโดยตรง ในขณะที่บางสื่อไม่สามารถทำได้ชัดเจนซึ่งจอ LED นั้น สามารถติดตั้งได้ทุกสถานที่ ทั้งรูปแบบการยึดติดผนัง ติดตั้งบนรากฐาน หรือการแขวน และยังเป็นสื่อที่สามารถปรับเปลี่ยนให้ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบันได้อย่างรวด เร็ว โดยอายุการใช้งานของหลอด LED นั้น มีอายุการใช้งานกว่า 100,000 ชั่วโมง และที่สำคัญเทคโนโลยีของLED ผลิตมาเพื่อประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดลงการใช้พลังงานไฟฟ้ากว่าแบบเดิมถึง 10 เท่า ประโยชน์ ที่ได้รับ ไม่ใช่เพียงเท่านี้ คุณยังสามารถช่วยลดภาวะโลกร้อน ด้วยการลดการผลิตสื่อในรูปแบบเดิมเช่น ป้ายไวนิล ป้ายคัตเอาท์ และนั่นหมายความว่า จะไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนรูปแบบการโฆษณาอีกต่อไป ซึ่งเป็นการลดต้นทุนในการโฆษณาโดยตรง ในการทำธุรกิจจอ LED Full Color Display เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการแสวงหากำไรอย่างรวดเร็ว โดยการเริ่มจากการหาทำเลที่ดี และมีความคิดสร้างสรรค์กับธุรกิจแนวใหม่ แค่เพียงเท่านี้ โอกาสในการทำธุรกิจโฆษณาของคุณก็จะโดดเด่นและล้ำสมัยกว่าคู่แข่งทางการค้า ของคุณอย่างแน่นอน